Stone Age บอร์ดเกม

เกมแนว worker placement เพื่อการตัวรอดและ พัฒนาหมู่บ้านที่มีพื้นหลังเป็นเรื่องราวในสมัยยุคหิน

By Admin ต.

Stone age เป็นบอร์ดเกมที่ออกมานานมากแล้ว น่าจะออกมาประมาณช่วงปี 2008 โดย ธีมของเกมคือจะให้เรารับบทเป็นผุ้นำของชาวบ้านในยุคหินที่จะต้องพัฒนาหมู่บ้านของเราให้เจริญรุ่งเรืองมากกว่าหมู่บ้านอื่นๆ ซึ่งตัดสินจากแต้มที่เราทำได้

In Stone Age, the players live in this time, just as our ancestors did. They collect wood, break stone and wash their gold from the river. They trade freely, expand their village and so achieve new levels of civilization. With a balance of luck and planning, the players compete for food in this pre-historic time.”                                                                                                          Boardgame Geek

โดยกลไกการดำเนินเกมนั้น เราจะต้องส่งคนงานไปทำงานในจุดต่างๆ เช่น หากเราต้องการไม้เราต้องส่งคนงานไป ช่องเก็บไม้ โดยช่องเหล่านี้จะมีจำกัด หากเต็มแล้วคนอื่นจะไม่สามารถลงเพิ่มได้ ทำให้ลำดับการเล่น มีผลมากพอสมควร โดย คนงาน 1 คน จะทำให้ทอยเต๋าเพื่อเก็บทรัพยากรได้ 1 ลูก โดย ทรัพยากรแต่ละชนิดจะต้องการผลรวมบนหน้าเต๋าไม่เท่ากัน


ยกตัวอย่าง
ข้าว จะใช้ผลรวมของแต้ม หารด้วย 2 เช่น ส่งคนงานไป 2 คน จะทอยได้ 2 ลูก แล้วทอยออกมาได้ 5 กับ 6 ผลรวม คือ 11 จะเก็บข้าวได้ 11/2 ปัดลง = 5 ชิ้น

ทองคำ จะใช้ผลรวมของแต้มหารด้วย 6 ส่งคนงานไป 3 คน ทอยได้ 3 ลูก แล้วทอยออกมาได้ 1 1 3 ผลรวมคือ 5 จะเก็บทองได้ 5/6 ปัดลง = 0 เข้!!! เก็บไม่ได้เลยเสียคนงานไปเก็บลมฟรีๆ 3 คน

เอ้า !!! งี้เกมก็โคดดวงเลยอ่ะดิ 

มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ เพราะเราสามารถส่งคนงานไปช่อง พัฒนาเครื่องมือได้ซึ่งเจ้าช่องนี้มันจะทำให้เราสามารถเพิ่มแต้มได้ทีละ 1 แต้ม เช่น เราพัฒนาเครื่องมือไป 2 ครั้ง เวลาทอยเต๋า เราก็จะสามารถเพิ่มหน้าเต๋าได้ 2 แต้มต่อรอบ ซึ่งตรงนี้จะช่วยแก้สถานการณ์เวลาเราทอยเต๋าห่วยได้ดีมากๆ

             การคิดคะแนน ในเกมนี้จะมีคะแนนที่ได้ระหว่างเกมซึ่งจะได้จากการเอาทรัพยากรไปแลกการ์ดกระท่อม กับอีกวิธีคือเอาทรัพยากรไปแลกการ์ดตรงมุมขวาล่างซึ่งจะให้คะแนนพิเศษตอนจบเกมซึ่งบอกเลยว่ามันมีผลมากๆ นอกจากนี้เจ้าการ์ดมุมขวาล่าง มันยังมักจะมี ผลประโยชน์บางอย่างติดมาให้ด้วย เช่น เราสามารถเสกทรัพยากรอะไรก็ได้ขึ้นมา 2 ชิ้น(รวมทั้งทองที่เก็บโครดยาก) หรือ เราสามารถเพิ่มแต้มเต๋าได้ 1 ครั้งเป็นต้น

             ซึ่งอ่านมาถึงตรงนี้คงเห็นแล้วว่าหากเรามีคนงงานยิ่งเยอะมันก็คงยิ่งดี ถูกต้องแต่ไม่ทั้งหมด เพราะคนงานในเกมนี้นั้นต้องกินข้าวเป็นอาหาร และในแต่ละรอบหากเรามีข้าวไม่พอจ่ายคนงานเราจะต้องจ่ายเป็นทรัพยากรอื่นๆเท่ากับจำนวนข้าวที่ขาดไป และหากไม่มีทรัพยากรจ่าย เราจะติดลบทันที 10 แต้ม!!! ฉะนั้น เราจะต้องคำนวณให้ดีระหว่างการเพิ่มคนงานกับการบริหารสต้อกข้าว

 

 

สรุป

เท่าที่ลองเล่นเกมนี้ ส่วนตัวผมมองว่าแม้เกมจะเป็นเกมเต๋า แต่เราสามารถควบคุมความเสี่ยงต่างๆได้มากพอสมควร เพราะหากเราไม่ทำอะไรที่บ้าระห่ำวัดดวงมากเกินไป เราก็จะสามารถดำเนินเกมให้เป็นไปตามแผนและเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ได้ เพราะการเก็บทรัพยากรนั้นมันก็คือการบริหารความเสี่ยงรูปแบบนึง เช่น หากเราจะไปเก็บทอง ซึ่งต้องใช้ 6 แต้ม นั่นแปลว่าเรามีโอกาสเก็บทองได้ เพียง 50 % เท่านั้นแม้จะส่งคนไปถึง 2 คน ในขณะที่หากเราส่ง 2 คนนี้ไปเก็บไม้ ซึ่งใช้เพียง 3 แต้มเราอาจจะเก็บไม้ได้หลายอัน แล้ว จึงเอาไม้ที่ได้ไปเก็บการ์ด มุมขวาล่างที่อาจให้ทองได้ถึง 2 ก้อนเลยทีเดียว แต่นั้นก็หมายถึงต้องเก็บทันก่อนคนอื่นด้วยนะ ฉะนั้นแล้วเกมนี้จึงเป็นอะไรที่สามารถพลิกไปพลิกมาได้ตลอดเวลา แต่หากเรามองเรื่องความเสี่ยงและคำนึงถึง worst case ไว้ในทุกๆรอบก็จะทำให้สามารถเล่นเกมนี้ได้อย่างสนุกสนานเลยทีเดียว

Spread the word